“ลุงแก้ว” คนสูบบ่อปลาขาย ถึงแม้รายได้จะไม่มากนัก แต่ก็พออยู่ได้ ชีวิตชาวนาตามเส้นทางที่ต้องการ พอมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว
การที่เราได้ทำอะไรด้วยใจรัก ก็มักจะมีความสุข บางครั้งไม่ได้อะไรมาก แต่ก็อยากทำ อย่างเช่นชีวิตของ “ลุงแก้ว” หรือนายแก้ว สมบัติศรีกุล อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 1 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ และนางสมใจ แสงท้าว อายุ 47 ปี 2 สามี-ภรรยา ซึ่งหลังจากเสร็จจากฤดูทำนาก็พากันออกหารับชื้อบ่อปลาจากชาวบ้านเป็นอาชีพเสริมนอกฤดูทำนา
โดยทำอาชีพรับชื้อบ่อปลาตามทุ่งนาชาวบ้านมาแล้ว 10 กว่า ปี มีรายได้เกือบปีละ 4-5 หมื่นบาท โดยจะออกรับซื้อตลอดทั้งปีเกือบ 80-100 บ่อ ถึงแม้จะรายได้ไม่มากนัก แต่ก็ทำด้วยใจรัก และมีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตตามวิถีชนบท พร้อมกับรายได้มาเลี้ยงครอบครัว
ซึ่งวิธีในการรับซื้อของแต่ละบ่อนั้น จะรับชื้อตามขนาดของบ่อซึ่งมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ถ้าปีไหนน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ ก็จะสูบขายได้กำไรเยอะ เพราะมีปลาให้จับเยอะ โดยหลักการดูว่าบ่อปลาของชาวบ้านแต่ละบ่อจะมีปลามากหรือน้อยนั้น จะต้องอาศัยประสบการณ์ความชำนาญ
โดยจะต้องจดจำว่าทุกๆครั้งทุกๆปี บ่อชาวบ้านคนไหนเคยมีปลาอาศัยมากหรือน้อย หรือบางครั้งก็ต้องไปดูบ่อในตอนกลางคืน โดยจะใช้ผ้าขาวม้าสะบัดๆบริเวณรอบๆบ่อ ถ้าในบ่อมีปลา ปลาจะตื่นตกใจ น้ำในบ่อก็จะกระจายตามแรงปลาตกใจ หรือบางทีก็ชื้อบ่อปลาชาวบ้านเอาไว้ล่วงหน้า แล้วก็จะเอาหัวอาหารไก่และปลา หรือไม่ก็เอากระดูกสัตว์ของวัวควาย หรือเลือดไปล่อที่ปากบ่อ เพื่อให้ปลาเข้าบ่อในช่วงที่ข้าวกำลังจะเริ่มออกรวง เพราะบางครั้งก็ต้องไปรับชื้อเอาไว้ข้ามปีไปเลยที่เดียว ไม่อย่างนั้นจะไม่ทันเจ้าอื่น
“ลุงแก้ว” ได้บอกว่า การออกหาสูบปลามาขายแต่ละครั้ง เครื่องสูบน้ำนั้นต้องจ้างเพื่อนบ้านมาโดยคิดค่าจ้างเป็นบ่อโดย บ่อเล็กประมาณ 300 บาท บ่อใหญ่ประมาณ 700 บาท ส่วนน้ำมันเราต้องชื้อให้เขา ส่วนค่าจ้างคนจับก็คิดเป็นวัน วันละ 200-300 ต่อคน ซึ่งมีอาหารพร้อมและได้ปลาไปกินด้วย ส่วนคนงานก็ตามขนาดของบ่อ เช่นบ่อเล็กก็ใช้ประมาณ 2-3 คน ถ้าบ่อใหญ่ก็ใช้ 4-6 คน
โดยเมื่อจับมาขึ้นมาได้ ก็จะมีแม่ค้าปลามารับชื้อจนถึงบ่อปลา และบางส่วนก็จะนำไปขายตามหมู่บ้าน ซึ่งก็มีทั้งปลาและหอย และเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วก็จะเหลือกำไรประมาณ 4-5 หมืนต่อปี ซึ่งถ้าปีไหนฟ้าฝนน้อย ปลาก็จะจับได้น้อย ผลกำไรก็จะน้อยตามไปด้วย ซึ่งรายได้ขนาดนี้ก็พออยู่พอกินครับ หากใครสนใจอยากจะให้ไปดูและตีราคาบ่อปลา ก็สามารถติดต่อมาได้ที่เบอร์นี้ครับ 080-723-0291 เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และพื้นที่ใกล้เคียงเท่านั้นนะครับ หรือถ้าไกล ก็ต้องคุยรายละเอียดกันอีกที
ซึ่ง”ลุงแก้ว” ยังได้กล่าวอีกว่า อาชีพนี้แม้ว่าจะมีรายได้ไม่มากนัก แต่ก็ทำด้วยใจรัก เพราะได้ใช้ชีวิตตามเส้นทางที่ต้องการ และได้อยู่กับธรรมชาติในเวลาที่ได้ออกสูบบ่อปลา ซึ่งสมาชิกก็จะพากันมากางเต้นท์นอนเฝ้าบ่อปลาด้วยกันทั้งวันทั้งคืน และเมื่อได้ปลามาบางส่วนก็จะเอามาทำกินกันอย่างสนุกสนานเฮฮา ในบรรยากาศที่เป็นวิถีของคนในชนบท ที่หาไม่ได้ง่ายนัก นอกจากจะออกมาใช้ชีวิตแบบนี้ ซึ่งนอกจากจะมีความสุขแล้ว ก็ยังมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวอีกด้วย
ภาพ / บุญเรือง เกษรจันทร์ ข่าว / ชูชัย ดำรงสันติสุข ผู้สื่อข่าวสุรินทร์นิวส์
About The Author
