วันศุกร์, 8 พฤศจิกายน 2567

อดีตสาวโรงงานเย็บผ้า กลับบ้านเกิดดูแลลูกและแม่ ผันชีวิต ขายต้มยำอาหารพื้นบ้าน รายได้ดีกว่าไปรับจ้าง (คลิป)

สุรินทร์ – อดีตสาวโรงงานเย็บผ้า กลับบ้านเกิดดูแลลูกและแม่ ผันชีวิต ขายต้มยำอาหารพื้นบ้าน รายได้ดีกว่าไปรับจ้าง

https://youtu.be/zIl6TU4P8iM

เมื่อวันที่  มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า ที่ตลาดสดอำเภอสนม จ.สุรินทร์ พบแม่ค้าขายอาหารต้มยำ อดีตสาวโรงงานอุตสาหกรรมเย็บเสื้อผ้าส่งออก จ.ชลบุรี กลับบ้านเกิดดูแลแม่ และเลี้ยงลูก 2 คน ผันชีวิต มาขายต้มยำอาหารพื้นบ้าน รายได้ต่อวัน 3,000 – 5,000 บาท

ต้มยำเป็นอาหารที่หลายๆคนรู้จักดี และเป็นอาหารที่หลายๆคนที่ชื่นชอบ กับรสชาติจัดจ้าน อีกร้านต้มยำหลากหลายเมนู สั่งได้ตามใจชอบ เปรี้ยวจีด เปรี้ยวจัด เผ็ดแบบแซ่บๆ ทั้งต้มยำรวมมิตร ต้มยำทะเล ต้มแซง หรือจะเป็นยำ

ร้านนี้สั่งได้ รับรองความแซ่บ และยังมี ปลานึ่ง กับข้าวตามฤดูกาล แกงหน่อไม้ หลากหลายเมนูจริงๆ การันตีความแซ่บจากลูกค้าขาประจำที่มาซื้ออย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน ที่ตลาดสดอำเภอสนม ขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13.00 – 18.00 น.

นางธนภรณ์ คุสิตรา อายุ 39 ปี แม่ค้าขายต้มยำ เล่าว่า อดีตตนทำงานอุตสาหกรรมโรงงานเย็บเสื้อผ้าส่งออก ที่จังหวัดชลบุรี

แต่ต้องกลับมาที่บ้านเกิดเพราะต้องมาดูแลลูกและแม่ด้วย เพราะที่ทำงานชลบุรีนั้นอยู่ไกล ตนกลับบ้านเกิด 7-8 ปีแล้ว พอกลับบ้านเกิดก็มาขายกับข้าวขายต้มยำ ขายในราคาเริ่มต้นที่ 30-50 บาท มีปลานิ่ง มีต้มยำ ต้มแซบ แกงส้ม อาหารเมนูพื้นบ้าน

ส่วนมากจะขายเมนูพื้นบ้านเพราะจะขายง่ายกว่า คนชอบและคนนิยมทานมากกว่า รายได้ต่อวันถ้าขายดีก็จะได้ 4,000 -5,000 บาท แต่วันไหนขายไม่ค่อยดีก็จะประมาณ 3,000 บาท ก็พออยู่ได้ ซึ่งรายได้ดีกว่าตอนทำงานที่โรงงาน เราทำอยู่บ้านยังพอมีเงินเก็บบ้างและมีเวลาดูแลลูกด้วย มีเวลาดูไร่ดูนา

นางธนภรณ์ คุสิตรา ยังให้ข้อคิดว่า งานสุจริตอะไรก็ดีหมด แต่ต้องดูด้วยว่าทำแล้วมีเวลาให้ครอบครัวไหม เราต้องเอาครอบครัวเป็นใหญ่

เพราะเด็กๆต้องการอ้อมกอดจากพ่อแม่ ต้องให้ความรักความอบอุ่น พอโตขึ้นไปอีกหน่อยเขาก็จะไม่ต้องการเราอีกแล้ว เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราต้องกลับมาอยู่บ้าน 7 ปี

เรามาอยู่บ้านจากที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ตอนนี้ลูกอยู่ ม.2 แล้ว เราให้ความรักดูแลเขามากขึ้นกว่าเดิมมีความผูกพันกันมากยิ่งขึ้น เขาก็เชื่อฟังเราเชื่อฟังพ่อแม่

ภาพ/ข่าว สมศักดิ์ ตระกูลสุข ข่าวสนมนิวส์

About The Author